หมวดหมู่: ต้นไม้

► “Ching Chair” เก้าอี้ที่คงความเป็นเอกลักษณ์ความสวยงามของไม้ไผ่แบบธรรมชาติ

•เพื่อเน้นความสวยงามและเอกลักษณ์ของวัสดุ และคุณภาพของงานคราฟท์ ด้วยการพัฒนาดีไซน์ใหม่ “Ching Chair”

•ในไต้หวันผู้คนตระหนักว่าไผ่เป็นวัสดุที่สามารถนำมาใช้ได้ในชีวิตประจำวัน มันสามารถนำมาทำเครื่องมือ เฟอร์นิเจอร์ และวัสดุก่อสร้างได้

•เก้าอี้ไม้ไผ่นี้โปรเจคเฟอร์นิเจอร์ที่เน้นความสำคัญของความสวยงามของวัตถุดิบ และเน้นความยืดหยุ่นของไป่ในการใช้ดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์

•ในการคงเอกลักษณ์และ Texture ของโครงสร้าง ไม้ไผ่ถูกเข้ากระบวนการเพื่อคงลักษณะของพื้นผิวไว้ เห็นได้จากสีเขียวของไผ่ ที่จะไม่จางหายไป นอกจากนั้นทั้งตัวเก้าอี้ จะถูกสร้างจากปล้องไผ่ 1 ต้น ที่ถูกแบ่งเป็นสามส่วน และเชื่อมต่อเข้าด้วยกัน

ที่มา https://www.facebook.com/environman.th

► ต้นไม้ที่ควรปลูกไว้ในห้องน้ำ

ต้นไม้ที่ควรปลูกไว้ในห้องน้ำเพื่อช่วยดับกลิ่นเหม็นและยังช่วยฟอกอากาศในห้องน้ำให้สดชื่นอีกด้วย

  1. กวักมรกต (ZanzibarGem)
    เป็นต้นไม้ที่ช่วยดูดสารพิษและกรองอากาศได้รวมทั้งช่วยคายออกซิเจนออกมาในตอนกลางคืนอีกด้วย จึงเหมาะสำหรับปลูกเพื่อดูดกลิ่นในห้องน้ำเป็นต้นไม้ที่ดูแลง่ายกักเก็บน้ำได้ดีไม่จำเป็นต้องรดน้ำบ่อยๆ สามารถปรับตัวเข้ากับหลากหลายสภาพอากาศ
  1. พลูด่าง (GoldenPothos)
    ปลูกได้ทั้งลงดินและในน้ำพลูด่างเป็นไม้โตง่ายทนทุกสภาวะอากาศ ที่สำคัญดูแลง่ายจึงเหมาะกับการปลูกในห้องน้ำ เนื่องจากมีคุณสมบัติในการฟอกอากาศลดปริมาณเบนซินและสารละลายไตรคลอโรเอทีลีน ช่วยทำลายสารที่เป็นพิษต่อร่างกายได้นอกจากนี้ยังมีใบและลวดลายที่สวยงามเป็นต้นไม้ประดับในห้องน้ำได้ด้วย
  1. เศรษฐีเรือนใน (SpiderPlant)
    ต้นเศรษฐีเรือนในหรือต้นแมงมุมมีเส้นขาวตรงกลางขอบเขียว นำไปตกแต่งในห้องน้ำสามารถช่วยดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และช่วยดูดกลิ่นในห้องน้ำไปพร้อมกัน เป็นต้นไม้เลี้ยงง่ายปลูกที่ไหนก็ได้ชอบอยู่ในที่ร่ม ต้องการน้ำน้อยทนความชื้นได้ดี แต่ก็ต้องการอากาศที่ไหลเวียนดีด้วยเช่นกันดังนั้นจึงควรนำออกไปตากแดดรำไรบ้างอย่างน้อยอาทิตย์ละครั้ง
  1. เดหลี (PeaceLily)
    ต้นไม้ดับกลิ่นที่สายไม้ดอกไม่ควรพลาดนั่นก็คือเดหลีที่มีดอกเป็นช่อสวยสีขาวหรือขาวแกมเหลือง (คล้ายดอกหน้าวัว) ส่วนใบสีเขียวมันวาวช่วยเสริมบรรยากาศในห้องน้ำให้สดชื่นสบายตาควรโดนแดดบ้างเล็กน้อยเช็ดใบบ้างและรดน้ำให้ชุ่มอยู่เสมอ หรือจะปลูกในน้ำก็ได้ ช่วยดูดสารพิษอย่างเบนซินฟอร์มาลดีไฮด์อะซีโตนและสารจำพวกแอลกอฮอล์ได้ดี
  1. เฟิร์นบอสตัน (BostonFern)
    เฟิร์นบอสตันนอกจากเรื่องความสวยงามแล้วยังเด่นเรื่องฟอกอากาศและดับกลิ่นในห้องน้ำด้วยเพราะเป็นต้นไม้ที่ชอบความชื้นสูง จึงสามารถดูดความชื้นในห้องน้ำช่วยลดการสะสมของเชื้อโรคและเชื้อราได้ดีเยี่ยม ต้องการแค่แสงแดดรำไรบ้างเล็กน้อยการรดน้ำไม่ต้องชุ่มมาก หรือคอยพ่นละอองน้ำให้บ้างเท่านั้น นอกจากจะผลิตออกซิเจนแล้วยังดูดซับกลิ่นดูดสารพิษ

► การปลูกกัญชามี 3 รูปแบบ

รู้หรือไม่? การปลูกกัญชามี 3 รูปแบบ

  1. ระบบเปิด (Outdoor) ปลูกกลางเเจ้ง
  2. ระบบกึ่งเปิด (Greenhouse) ปลูกในโรงเรือน
  3. ระบบปิด (Indoor) ปลูกในสถานที่ปิด

การปลูกกัญชาไม่ง่าย ต้องศึกษาข้อมูลให้ดี ดังนี้

  1. สายพันธุ์ต้องเหมาะสภาพเเวดล้อม
  2. รูปแบบการปลูก ต้องเหมาะกับพื้นที่
  3. การจัดการดิน
  4. การให้ปุ๋ย
  5. การให้น้ำ
  6. แมลงศัตรูพืช
  7. การดูแลระหว่างปลูก

หากเราดูแลต้นกัญชาอย่างถูกวิธี จะส่งผลให้เราได้ผลผลิตจากกัญชาที่มีคุณภาพ เป็นที่ต้องการของท้องตลาด

ข้อมูลจาก สำนักข่าวไทย อสมท (ช่อง 9MCOT HD เลข 30 | Thai News Agency MCOT)

https://youtu.be/L3ePhKA8mhs?t=1

► 5 ขั้นตอนน่ารู้…ก่อนปลูกกัญชา

CANNHEALTH EXCLUSIVE : 5 ขั้นตอนน่ารู้…ก่อนปลูกกัญชา กับเทคนิคต่างๆในการปลูกกัญชา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเลือกสายพันธุ์ สถานที่ปลูกหรือแม้กระทั้งการเลือกปุ๋ยในการดูแล CANNHEALTH เคยนำเสนอเรื่อง “7 ปัจจัยสำคัญในการปลูกกัญชา” มาแล้ว วันนี้ขอนำเสนอเรื่อง “5 ขั้นตอนน่ารู้…ก่อนปลูกกัญชา” มาดูกันว่าจะมีเรื่องอะไรที่น่าสนใจกันบ้าง

เลือกสายพันธุ์ให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมและอุณหภูมิ
เลือกสายพันธุ์ที่สามารถปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมและอุณหภูมิได้ หากปลูกกลางแจ้งก็ควรเลือกสายพันธุ์ที่ทนทานต่ออุณหภูมิที่สูงกว่าปลูกในโรงเรือน

เลือกสถานที่ที่ดีที่สุด
ควรพิจารณาว่าจะปลูกกัญชาลงดินหรือในตู้คอนเทนเนอร์ หรือแบบไฮโดรโปนิกส์ โดยคำนึงถึงปัจจัยสภาพแวดล้อมได้แก่ แสง ลม อุณหภูมิน้ำฝน แมลง หากปลูกกลางแจ้งควรเป็นสถานที่ที่มีระบบการรักษาความปลอดภัยที่รัดกุม

เลือกดินที่ระบายน้ำได้ดีและอุ้มน้ำได้ดีพอเหมาะ
ควรเข้าใจส่วนประกอบของดินเพื่อที่จะปรับเปลี่ยนการเลือกใช้ให้เข้ากับสายพันธุ์ที่เลือกปลูก ซึ่งเนื้อดินปลูกกัญชาควรร่วนซุย ระบายน้ำได้ดีไม่ทำให้เกิดน้ำขังอยู่ด้านบนของดิน อุ้มน้ำได้ดีพอเหมาะ คือทำให้ดินเปียกแต่ไม่เป็นโคลน

เลือกปุ๋ยที่มีคุณค่าทางสารอาหารสูง
ต้นกัญชาต้องการคุณค่าทางสารอาหารสูง ซึ่งก็คือธาตุอาหารหลักของพืชอย่างฟอสฟอรัส ไนโตรเจนและโพแทสเซียม ธาตุอาหารพืชเหล่านี้สามารถผสมในน้ำและรดใส่ต้นแต่ไม่ควรรดมากจนเกินไป

เรียนรู้ขั้นตอนการดูแลระหว่างการปลูก
การรดน้ำกัญชาต้องทำให้เหมาะสมโดยคำนึงถึงสภาพแวดล้อม เช่นอากาศร้อนแห้ง อากาศร้อนชื้น อากาศเย็นชื้นและฝนตกในพื้นที่ ส่วนการจัดทรงและตัดแต่งต้นกัญชาก็ควรทำเป็นประจำเพื่อความสวยงามและทำให้ใบได้รับแสงอย่างทั่วถึง

ที่มา : CANNHEALTH
หมายเหตุ : เผยแพร่ครั้งแรกเป็นภาษาไทยเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2562 โดย Cannhealth
เขียน/แปล: สิริญา มิตรศรัทธา
เรียบเรียง : ณัฐวุฒิ จงจิตร

► ฟ้าทะลายโจร

ฟ้าทะลายโจร Andrographis Paniculata (Burm.f.) Nees. เป็นพืชล้มลุกฤดูเดียว ที่อยู่ในวงศ์ Acanthaceae (วงศ์เหงือกปลาหมอ) มีถิ่นกำเนิดในอินเดียและศรีลังกา ลักษณะเป็นไม้พุ่มเตี้ย มีความสูงประมาณ 30 – 70 เซนติเมตร
สภาพแวดล้อมที่เหมาะสม

  • สภาพภูมิอากาศ
    อุณหภูมิ: ร้อนชื้น อุณหภูมิประมาณ 25-30 °C
    ความชื้นสัมพัทธ์: เฉลี่ย 60-80%
    แสง: ร่มไร ถ้าจำเป็นต้องปลูกกลางแจ้ง ต้องให้น้ำเพิ่มเป็นพิเศษ
    น้ำ: ต้องการน้ำเพียงพอตลอดฤดูปลูก ถ้าขาดน้ำ ผลผลิตและปริมาณสารสำคัญจะลดลง
    ลม: แหล่งปลูกต้องไม่มีลมพัดแรง มีการทำแนวบังลมเพื่อป้องกันต้นหักล้ม
  • สภาพพื้นที่
    ความสูง: จากระดับน้ำทะเลถึง 3,200 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล
  • สภาพดิน
    ประเภทดิน ดินร่วนซุย หลีกเลี่ยงดินเหนียว หรือดินทรายจัด
    อินทรียวัตถุ มีอินทรียวัตถุไม่น้อยกว่า 3.5%
    ความเป็นกรดด่างของดิน(pH) 5.5-8
    การระบายน้ำ ระบายน้ำดี ไม่ท่วมขัง
  • สายพันธุ์
    พันธุ์จาก อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม น้ำหนักสดต่อต้นสูง
    พันธุ์จากระยอง
    พันธุ์ศรีสะเกษ
  • ผลผลิตเฉลี่ย
    ผลผลิตสดเฉลี่ย 2,000-3,000 กิโลกรัมต่อไร่
    ผลผลิตสด : ผลผลิตแห้ง 4 : 1

การเตรียมดิน

  • ถ้ามีวัชพืชมาก ให้ไถพรวน 2 ครั้ง ตากดิน 2 สัปดาห์ แล้วจึงใส่ปุ๋ยอินทรีย์รองพื้น ก่อนทำแปลง
  • ในกรณีที่ดินดี มีวัชพืชน้อย อาจแค่ปรับดิน โดยไม่ต้องใส่ปุ๋ยอินทรีย์

การเตรียมพันธุ์

  • ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด
  • เลือกใช้เมล็ดจากฝักแก่จัด สีน้ำตาลแดง เมล็ดสมบูรณ์ ไม่มีโรค-แมลง
  • อาจนำเมล็ดมาแช่น้ำหรือไม่แช่น้ำก็ได้ ถ้าแช่น้ำ ให้แช่ 2 ชั่วโมง แล้วห่อกระดาษทิชชู ทิ้งไว้ 2 วัน

เตรียมแปลงปลูก

  • ยกแปลงสูง 15 – 20 ซม. กว้าง 1 เมตร แปลงยาว 3 – 5 เมตร ตามสภาพพื้นที่
  • ใส่ปุ๋ยอินทรีย์และถ่านไบโอชาร์ รดน้ำ ปล่อยทิ้งไว้อย่างน้อย 30 – 45 ก่อนปลูก

การปลูก
ทำได้ 4 วิธี
1) หว่านลงแปลงโดยตรง โดยอาจนำเมล็ดมาผสมทรายหยาบ อัตรา 1:1-2 เพื่อสะดวกในการหว่าน
2) โรยเมล็ดเป็นแถว ขวางแปลง ระยะแถวห่าง 50 ซม. กลบดินบางๆ
3) เพาะกล้าในถาดเพาะ แล้วจึงย้ายลงแปลงปลูก
4) เพาะในแปลง โดยเตรียมแปลงเพาะกว้าง 1 ม. สูง 15 – 20 ซม. ใส่ปุ๋ยอินทรีย์รองพื้น 0.5 – 1 กก.ต่อพื้นที่ 1 ตรม.

ในกรณีปลูกด้วยการย้ายกล้า

  • ใช้ต้นกล้าอายุ 30 วัน
  • ปลูกฤดูแล้ง ระยะ 30 x 40 ซม. จะปลูกได้ 8 ต้น/ตรม.
  • ปลูกฤดูฝน ระยะ 30 x 60 ซม. จะปลูกได้ 6 ต้น/ตรม.

การให้น้ำ
ให้น้ำอย่างพอเพียงและสม่ำเสมอ ตั้งแต่เริ่มปลูกถึงเก็บเกี่ยว
ถ้าแดดจัดให้น้ำวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น
ถ้าแดดไม่จัด ให้น้ำวันละครั้ง ช่วงเย็น
เมื่ออายุได้ 2 เดือนแล้ว สามารถลดการให้น้ำ โดยดูตามความเหมาะสม

การให้ปุ๋ย

  • ช่วงเตรียมดินย้ายกล้า ใส่ปุ๋ยอินทรีย์หว่านบางๆ
  • หลังจากนั้น 15 วัน ใส่ปุ๋ยอินทรีย์รอบสอง 125 กรัมต่อต้น หรือ 300 – 400 กรัมต่อ 1 ตรม. โดยหว่านกระจายให้ทั่วแปลง

การกำจัดวัชพืช
ช่วงแรก จะต้องกำจัดวัชพืชประมาณทุกครึ่งเดือน เมื่อต้นฟ้าทะลายโจรโต ทรงพุ่มกว้างคลุมแปลงแล้ว จะมีวัชพืชน้อย ไม่จำเป็นต้องกำจัดก็ได้

ศัตรูที่สำคัญและการป้องกันกำจัด
อาจพบหอยทากบ้างในช่วงระยะต้นกล้า ให้กำจัดด้วยมือ
หลังจากนั้น ไม่พบการระบาดของโรคระบาดที่ทำความเสียหายรุนแรง
บางครั้งพบโรคโคนเน่า-รากเน่าจากเชื้อรา ให้ถอนทำลายทันที

การเก็บเกี่ยว
เพื่อให้ได้สารสำคัญสูงสุด ให้เก็บเกี่ยว

  • เก็บเกี่ยวระยะเริ่มออกดอก-ดอกบาน 30% และไม่ควรเกินระยะดังกล่าว เพราะสารสำคัญจะลดลง
  • วิธีเก็บตัดเหนือดินห่างโคน 4 ข้อ (ประมาณ 5 – 10 ซม.)
  • ใบมีปริมาณสารสำคัญมากกว่ากิ่งก้าน

การปฏิบัติหลังการเก็บเกี่ยว

  • คัดแยกสิ่งปนปลอม เช่น วัชพืชที่ปะปนมา
  • ล้างน้ำสะอาด
  • ตัดเป็นท่อนยาว 2-3 ซม. ผึ่งให้แห้ง
  • ทำแห้งโดยตากแดดบนลานตากยกพื้นมีวัสดุรองรับที่สะอาด หรือใช้เครื่องอบแห้งแบบลมร้อน ที่อุณหภูมิ 50 °C ใน 8 ชั่วโมงแรก และลดอุณหภูมิเหลือ 40 – 45 °C อบต่อจนแห้งสนิท

เอกสารอ้างอิง
– https://th.wikipedia.org/wiki/ฟ้าทะลายโจร_(พืช)
– http://k-tank.doae.go.th/uploads/16ฟ้าทะลายโจร.pdf

► เฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากต้นไม้จริงๆ

“แทนที่เราจะปลูกต้นไม้ปล่อยให้โตไปสัก 50 ปี แล้วค่อยโค่นมันเพื่อนำมาผลิตเป็นเฟอร์นิเจอร์ ผมจึงเกิดไอเดียว่าเรามาปลูกต้นไม้ในทรงที่เราต้องการเลยดีกว่า ปล่อยให้มันโตตามแบบของมัน พอเราจับมันเด็ดเข้าด้วยกัน เราก็จะได้เฟอร์นิเจอร์ชิ้นเดี่ยวแบบไร้รอยต่อ” – Gavin Munro

บนพื้นที่ 5 ไร่ ณ สวนแห่งหนึ่งในเมือง Derbyshire ประเทศอังกฤษ ถ้าบังเอิญเดินผ่านสวนแห่งนี้ คุณคงตกใจไม่น้อยเมื่อเห็นต้นไม้ที่นี่ เติบโตมาโดยมีลำต้นรูปทรงแปลก ๆ อยู่หลายร้อยต้น แต่รู้ไหมว่าพวกมันกำลังจะเติบโตเป็น เก้าอี้, โคมไฟ และ โต๊ะ ในอนาคต

Gavin และ Alice Munro สองสามีภรรยาผู้เป็นเจ้าของสวนแห่งนี้ ทั้งคู่มีความต้องการที่จะทำธุรกิจอย่างยั่งยืนโดยใส่ใจสิ่งแวดล้อมและเพื่อนมนุษย์ “Farm furniture” จึงเป็นไอเดียที่ตอบโจทย์ โดยการผลิตเฟอร์นิเจอร์ของที่นี่ เรียบง่ายมาก เพียงแต่ต้องใช้ความใส่ใจและเวลาอย่างสูง

ทั้งคู่ได้ลองผิดลองถูกไปเรื่อย ๆ จนค้นพบว่า ก่อนจะดัดกิ่งให้เป็นทรงที่ต้องการ ต้องปล่อยให้ต้นไม้ได้เลื้อยไปตามสภาพแวดล้อม ได้เติบโตตามธรรมชาติในแบบของมัน ทั้งคู่ได้เปิดบริษัทชื่อ Full Grown ในปี 2013

“ขั้นตอนในการสร้างมันขึ้นมา คล้าย ๆ กับวิถี ZEN แบบ 3 มิติ” – คุณ Gavin กล่าว ด้วยขั้นตอนและวิธีการผลิตที่กว่าจะได้เก้าอี้สักตัว เฟอร์นิเจอร์สักชิ้น ต้องใช้ ฝีมือ แรงงาน ประสบการณ์ และเวลาอย่างมาก ต้นไม้บางต้นกว่าจะกลายมาเป็นเก้าอี้ให้เราได้นั่ง อาจจะต้องใช้เวลาถึง 10 ปีเลยทีเดียว

ส่วนใครที่สนใจซื้อเก้าอี้ของบริษัท Full Grown บอกเลยว่าอาจจะต้องรอนานหน่อย เพราะตอนนี้เก้าอี้ถูกจองไปจนถึงปี 2030 แล้ว

ที่มา https://www.facebook.com/pisamaifurniture

► 9 ต้นไม้มงคล แต่งบ้านสวย เสริมดวง

พลูด่าง
ไม้ประดับที่เรานิยมปลูกกันในบ้านอยู่แล้ว เพราะไม่ต้องการแสงแดดเยอะ ทั้งยังเลี้ยงง่ายไม่ว่าจะปลูกในน้ำหรือดิน นอกจากจะช่วยดูดซับสารพิษในอากาศได้ดี ยังช่วยเสริมสิริมงคลให้แก่ผู้ปลูกอีกด้วย ตามความเชื่อบอกว่าหากนำมาวางบริเวณโต๊ะทำงาน จะช่วยเสริมเรื่องการทำงานอย่างราบรื่น ไม่ติดขัด และทำให้อยู่เย็นเป็นสุข

กล้วยไม้
เป็นไม้ประดับที่มีสีสันสวยงาม และหลากหลายพันธุ์ให้เลือก ทั้งยังดูแลง่าย ซึ่งตามความเชื่อบอกว่ากล้วยไม้เป็นไม้มหาเสน่ห์ ที่ส่งเสริมเรื่องความเมตตากรุณา ช่วยสร้างความประทับใจแก่บุคคลทั่วไป และทำให้คนในบ้านมีจริยธรรมอีกด้วย

โกสน
ต้นโกสนเป็นไม้ยืนต้น สีสันสวยแปลกตา และยังช่วยเสริมความเป็นสิริมงคลอีกด้วย เพราะมีชื่อพ้องกับคำว่า ‘กุศล’ ซึ่งหมายถึงการสร้างบุญ ถ้านำมาปลูกไว้ในบ้านจะทำให้ครอบครัวมีความสงบสุข ร่มเย็น ปราศจากความขัดแย้ง

บอนสี
ไม้มงคลที่คนไทยนิยมปลูกกันมานานแล้ว อาจจะดูแลยากสักหน่อยแต่ด้วยรูปทรง สีสัน และความเชื่อที่บอกว่าหากปลูกไว้บริเวณบ้านจะส่งเสริมความสุข ความเจริญ และสมหวังแก่เจ้าของบ้าน หลายคนจึงเลือกที่จะนำพืชชนิดนี้มาประดับบ้านและดูแลเป็นอย่างดี

เศรษฐีพันล้าน
พืชอวบน้ำใบนุ่มนิ่ม ที่เชื่อกันว่าบ้านไหนที่ปลูกต้นเศรษฐีพันล้านนี้ จะช่วยเรื่องความเป็นสิริมงคลในครัวเรือน เสริมโชคลาภ และค้าขายร่ำรวย เป็นไม้ที่เลี้ยงดูง่าย ชอบแดดรำไร เหมาะแก่การปลูกประดับบ้านหรือที่ทำงานเพื่อเสริมความมงคล

โป๊ยเซียนแคระ
พืชตระกูลเดียวกับโป๊ยเซียนต้นใหญ่ที่คนไทยเคยนิยมปลูกกันไว้หน้าบ้าน แต่มาในไซซ์เล็กน่ารัก สามารถวางประดับไว้บนโต๊ะทำงานได้ นอกจากจะเลี้ยงง่ายแล้ว ยังมีความเชื่อว่าโป๊ยเซียนเป็นต้นไม้ของเทพเจ้าทั้ง 8 ซึ่งถ้าเลี้ยงจนออกดอกได้ 8 ดอกขึ้นไป จะทำให้มีโชคลาภ อยู่เย็นเป็นสุขมากขึ้น

กวักมรกต
กวักมรกตเป็นไม้ประดับเลี้ยงง่ายตายยาก เหมาะสำหรับนักปลูกมือใหม่ ทั้งช่วยกรองอากาศ ดูดซับสารพิษ ตามความเชื่อบอกว่าจะช่วยกวักเงินกวักทองเข้ามาเหมือนกับชื่อนั่นเอง และถ้าปลูกจนมีดอกให้เห็น จะยิ่งร่ำรวยมากขึ้นไปอีกเชียวล่ะ

ไผ่กวนอิม
พันธุ์ไม้ยืนต้นที่มีลำต้นกลมและเป็นข้อ ขนาดไม่ใหญ่เทอะทะ ดูแลง่าย นิยมเอามาปลูกตกแต่งบ้านและเสริมฮวงจุ้ย หากนำมาประดับโต๊ะทำงานก็จะช่วยเสริมโชคลาภ นำพาเงินทองมาสู่เจ้าของ ตามความเชื่อยังบอกอีกว่าถ้าปลูกไผ่กวนอิมจำนวน 2 ต้น จะส่งเสริมเรื่องความรักและชีวิตคู่ด้วยนะ

ข้อมูลจาก
https://www.dnmtrades.com
https://www.thairath.co.th
https://chiangmaigardens.com
https://tonkit360.com

https://www.timeout.com