หมวดหมู่: เรื่องน่าสนใจ

► Metaverse มาแล้วต้องระวังตรงไหน!? Kaspersky แนะ 5 จุดปกป้องข้อมูลตัวตนดิจิทัล

แคสเปอร์สกี้ (Kaspersky) มองทุกคนต้องเตรียมพร้อมปกป้องข้อมูลตัวตนดิจิทัลท่ามกลางกระแสความสนใจในเมตาเวิร์ส (Metaverse) ย้ำ 5 มุมมองต้องรู้เพื่อให้ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตคำนึงถึงความปลอดภัยของอวาตาร์ดิจิทัล และภัยคุกคามที่อาจเกี่ยวข้องกับ Metaverse

มุมมองที่ 1 คือการโจรกรรมข้อมูลตัวตนและการยึดบัญชีโดยแอนะล็อกเข้ากับโซเชียลเน็ตเวิร์กและเกมที่มีผู้เล่นหลายคน แคสเปอร์สกี้มองว่าอาจทำให้เกิดการสูญเสียข้อมูลส่วนบุคคล (เช่น ข้อมูลการติดต่อ หรือ meta-analogue) ซึ่งอาจนำไปสู่การแบล็กเมล์

“นอกจากนี้ ยังมีการขโมยสกุลเงินเสมือน เงินตราจริง หรือเงินคริปโตจากบัตรและวอลเล็ตที่เชื่อมโยงกับบัญชีหรือสิ่งของเสมือนจริงราคาแพง เช่น สกินหรือเครื่องแต่งกาย รวมถึงการใช้อวาตาร์เพื่อฉ้อโกง เช่น การขอยืมเงินจากเพื่อนและครอบครัว”

แคสเปอร์สกี้อธิบายว่า ผู้คนสามารถเชื่อมต่อกับ metaverse เป็นรูปอวาตาร์และทำทุกอย่างราวกับว่ากำลังอยู่ในโลกแห่งความจริง ทั้งค้นหาข้อมูล สื่อสารพูดคุย ชอปปิ้งและไปทำงาน แต่ในขณะเดียวกัน ก็สามารถหลีกหนีจากความเป็นจริงและอาศัยอยู่ในจักรวาลเสมือนจริงได้ อวตารของมนุษย์ใน metaverse สามารถเป็นอะไรก็ได้ตามต้องการ สามารถเป็นเจ้าของสิ่งใดด็ได้ และความตายไม่ได้มีความหมายเหมือนกับในโลกแห่งความเป็นจริง

“ตัวอย่างบางส่วนของโลกดิจิทัลในวัฒนธรรมสมัยนิยม ก็คือ ภาพยนตร์ไตรภาค The Matrix หรือ Ready Player One ซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับเกมออนไลน์ OASIS ที่มีผู้เล่นหลายคนได้กลายเป็นแอนะล็อกของ metaverse โดยนอกจากจักรวาลที่แยกจากกันแล้ว ภาพเสมือนจริงก็ค่อยๆ กลายเป็นส่วนหนึ่งของความเป็นจริงสมัยใหม่ไปแล้ว ในสหรัฐอเมริกา มีการเปิดตัวรายการ Alter Ego ซึ่งผู้เข้าแข่งขันร้องเพลงที่ด้านหลังเวที และให้เทคโนโลยีการจับภาพเคลื่อนไหวสร้างภาพอวาตาร์ดิจิทัลแทนที่ตัวเอง”

มุมมองที่ 2 ที่แคสเปอร์สกี้ชี้ว่าต้องระวังคือเรื่องวิศวกรรมสังคม (social engineering) เช่นเดียวกับบริการแอปหาคู่ แคสเปอร์สกี้มองว่าปัจจัยสำคัญอีกประการหนึ่งคือจะต้องมีแอนะล็อกของ metaverse ที่มีความคล้ายคลึงกัน ผู้คนในโลกเสมือนจริงอาจไม่ได้เป็นอย่างที่บอกไว้ หรืออาจไม่ได้มีเจตนาที่ดี ซึ่งสามารถนำไปสู่แผนการตกเหยื่อ (catfishing) การแอบอ้างหรือสร้างตัวตนปลอมเพื่อพูดคุยปฏิสัมพันธ์ การสะกดรอยตามและกลั่นแกล้งทางออนไลน์ (stalking and doxing) แคสเปอร์สกี้และเอ็นแท็บได้พัฒนาหลักสูตรเกี่ยวกับวิธีการป้องกันตัวเองและจัดการกับการล่วงละเมิด รวมถึงอันตรายอื่นๆ ขณะที่เปลี่ยนจากโลกเสมือนจริงไปสู่โลกแห่งความจริง

มุมมองที่ 3 คือปัญหาความเป็นส่วนตัว เนื่องจาก metaverse มีความเหมือนโซเชียลมีเดียแต่เป็นโลกความเป็นจริงเสมือน ผู้ใช้ต้องระมัดระวังและปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของตน (เช่น ข้อมูลหนังสือเดินทาง หมายเลขตั๋วต่างๆ)

มุมมองที่ 4 คือปัญหาที่เกี่ยวข้องกับบล็อกเชน หากใน Decentraland ตัวตนของผู้ใช้ถูกสร้างขึ้นบนวอลเล็ต ก็ยิ่งจำเป็นต้องป้องกัน

มุมมองที่ 5 คือเด็กและเยาวชนก็เป็นผู้ใช้ metaverse เป็นประจำ (active user) เช่นกัน ตัวอย่างที่โดดเด่นคือเกม Roblox ซึ่งเป็นเกมที่ได้รับความนิยมสูงสุดในหมู่เด็กและเยาวชนมาเป็นเวลานาน ดังนั้น การคาดการณ์และการรับรองความปลอดภัยจากอาชญากรจึงเป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน เพราะใน VR มีความเสี่ยงเรื่องการเผชิญหน้ากับผู้กระทำความผิด

ที่มา : https://mgronline.com/cyberbiz/detail/9640000124086

► 5 ขั้นตอนน่ารู้…ก่อนปลูกกัญชา

CANNHEALTH EXCLUSIVE : 5 ขั้นตอนน่ารู้…ก่อนปลูกกัญชา กับเทคนิคต่างๆในการปลูกกัญชา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเลือกสายพันธุ์ สถานที่ปลูกหรือแม้กระทั้งการเลือกปุ๋ยในการดูแล CANNHEALTH เคยนำเสนอเรื่อง “7 ปัจจัยสำคัญในการปลูกกัญชา” มาแล้ว วันนี้ขอนำเสนอเรื่อง “5 ขั้นตอนน่ารู้…ก่อนปลูกกัญชา” มาดูกันว่าจะมีเรื่องอะไรที่น่าสนใจกันบ้าง

เลือกสายพันธุ์ให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมและอุณหภูมิ
เลือกสายพันธุ์ที่สามารถปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมและอุณหภูมิได้ หากปลูกกลางแจ้งก็ควรเลือกสายพันธุ์ที่ทนทานต่ออุณหภูมิที่สูงกว่าปลูกในโรงเรือน

เลือกสถานที่ที่ดีที่สุด
ควรพิจารณาว่าจะปลูกกัญชาลงดินหรือในตู้คอนเทนเนอร์ หรือแบบไฮโดรโปนิกส์ โดยคำนึงถึงปัจจัยสภาพแวดล้อมได้แก่ แสง ลม อุณหภูมิน้ำฝน แมลง หากปลูกกลางแจ้งควรเป็นสถานที่ที่มีระบบการรักษาความปลอดภัยที่รัดกุม

เลือกดินที่ระบายน้ำได้ดีและอุ้มน้ำได้ดีพอเหมาะ
ควรเข้าใจส่วนประกอบของดินเพื่อที่จะปรับเปลี่ยนการเลือกใช้ให้เข้ากับสายพันธุ์ที่เลือกปลูก ซึ่งเนื้อดินปลูกกัญชาควรร่วนซุย ระบายน้ำได้ดีไม่ทำให้เกิดน้ำขังอยู่ด้านบนของดิน อุ้มน้ำได้ดีพอเหมาะ คือทำให้ดินเปียกแต่ไม่เป็นโคลน

เลือกปุ๋ยที่มีคุณค่าทางสารอาหารสูง
ต้นกัญชาต้องการคุณค่าทางสารอาหารสูง ซึ่งก็คือธาตุอาหารหลักของพืชอย่างฟอสฟอรัส ไนโตรเจนและโพแทสเซียม ธาตุอาหารพืชเหล่านี้สามารถผสมในน้ำและรดใส่ต้นแต่ไม่ควรรดมากจนเกินไป

เรียนรู้ขั้นตอนการดูแลระหว่างการปลูก
การรดน้ำกัญชาต้องทำให้เหมาะสมโดยคำนึงถึงสภาพแวดล้อม เช่นอากาศร้อนแห้ง อากาศร้อนชื้น อากาศเย็นชื้นและฝนตกในพื้นที่ ส่วนการจัดทรงและตัดแต่งต้นกัญชาก็ควรทำเป็นประจำเพื่อความสวยงามและทำให้ใบได้รับแสงอย่างทั่วถึง

ที่มา : CANNHEALTH
หมายเหตุ : เผยแพร่ครั้งแรกเป็นภาษาไทยเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2562 โดย Cannhealth
เขียน/แปล: สิริญา มิตรศรัทธา
เรียบเรียง : ณัฐวุฒิ จงจิตร

► 7 ที่รับบริจาค

มูลนิธิกระจกเงา
เลขที่ 191 ซอยวิภาวดี 62 (แยก4-7) ถนนวิภาวดีรังสิต
แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร 10210
(โทรศัพท์ : 02-9732236-7 ต่อ 101)

มูลนิธิบ้านนกขมิ้น
เลขที่ 89/12 ซอยเสรีไทย 17 ถนนเสรีไทย กรุงเทพมหานคร 10240
(โทร : 02-375-6497, 02-375-2455)

บ้านเฟื่องฟ้า
เลขที่ 78/9 หมู่ 1 ถนนติวานนท์ ซอยติวานนท์-ปากเกร็ด 1 ปากเกร็ด นนทบุรี 11120
(โทร : 02-583-6815)
เสื้อผ้า ของใช้เด็ก

โครงการร้านปันกัน โดย มูลนิธิยุวพันธ์
เลขที่ 7 ซอยอ่อนนุช 90 แขวงประเวศ เขตประเวศ กรุงเทพฯ 10250
(โทร : 02-1183968-9)
เอาไปขายต่อ

สถานสงเคราะห์เด็กอ่อนพญาไท
78/24 หมู่ 1 ตำบลบางตลาด อำเภอปากเกร็ด นนทบุรี 11120
(โทร : 02-584-7255)
ผ้าอ้อม

ทัณฑสถานหญิงชลบุรี
เลขที่ 84 ถนนวชิรปราการ ตำบลบางปลาสร้อย อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี 2000
(โทร : 03-828-2002)
ต้องการชุดชั้นในสภาพดี

พระปลัดวาโย ถาวโร
เลขที่ 179 วัดทุ่งแล้ง ต.แม่คง อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน 58110
(โทร. 093-6759634)
เด็กชาวเขา

► ผลงานศิลปะที่ใช้ความคิดสร้างสร้างจากการออกแบบของใช้

ผลงานศิลปะที่ใช้ความคิดสร้างสร้างจากการออกแบบของใช้ ของ Katerina Kamprani
ที่มา https://www.facebook.com/theuncomfortable

► 10 สิ่งประดิษฐ์ที่ได้จากการพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศ

๏ กล้องโทรศัพท์มือถือ
ย้อนไปเมื่อราวปี พ.ศ. 2533 ทีมนักวิทยาศาสตร์ของ Jet Propulsion Laboratory (JPL) นาซ่า ได้คิดค้นกล้องขนาดเล็กเพื่อติดตั้งบนยานอวกาศสำหรับงานสำรวจทางวิทยาศาสตร์ สมัยนั้นอย่าว่าแต่โทรศัพท์มือถือเลยครับ แค่โทรศัพท์บ้านในบ้านพื้นที่ยังไม่รู้จักเลย และความคิดนั้นก็ได้รับการต่อยอดจนมาสู่กล้องมือถือที่ให้เราได้เซลฟี่กันนั่นเอง

๏ เลนส์กันรอยขีดข่วน
แรกเริ่มมาจากนักวิทยาศาสตร์จากศูนย์วิจัยเลวิส (Lewis) นาซ่า ได้พัฒนาวิธีการเคลือบวัสดุด้วยเพชรแข็งสำหรับอากาศยาน ต่อมากระบวนการดังกล่าวได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและมีการจดสิทธิบัตรเป็นที่เรียบร้อย

๏ เครื่องซีทีสแกน
การเดินทางในห้วงอวกาศที่มืดสนิทจำเป็นต้องมีเครื่องมือช่วยเหลือการมองเห็นเพื่อช่วยในการนำทาง นักวิทยาศาสตร์จาก JPL นาซ่าจึงได้คิดค้นการถ่ายภาพอวกาศด้วยรังสี เป็นเทคนิคการได้มาซึ่งข้อมูลโดยไม่ต้องอาศัยแสงอาทิตย์ ต่อมาพัฒนากลายมาเป็นเครื่องซีทีแสกนและใช้กันอย่างแพร่หลายในทางการแพทย์ในปัจจุบัน

๏ หลอดไฟเอลอีดี
แรกเริ่มนาซ่าพัฒนาหลอด LED แสงสีแดงขึ้นเพื่อใช้ในการวิจัยการปลูกพืชในสถานีอวกาศและกระสวยอวกาศ ต่อมาทางบริษัท Quantum Devices ได้นำมาเป็นต้นแบบพัฒนาอุปกรณ์ที่ชื่อว่า WARP-10 รักษาอาการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อ และภายหลัง LED แสงสีต่างๆก็ได้ถูกพัฒนาขึ้น ขนาดเล็กลงและใช้พลังงานน้อยลง จนนำไปสร้างหน้าจอที่มีแสงจากด้านหลัง ต่อมาเทคนิคดังกล่าวได้ใช้เพื่อพัฒนาเป็นหน้าจอสมาร์ทโฟนและโทรทัศน์หลายรุ่นในปัจจุบัน

๏ ผ้าห่มฟอยล์ หรือ ผ้าห่มฉุกเฉิน
หากใครนึกไม่ออกก็ให้นึกถึงตอนที่ผ้าห่มที่ทีมหมูป่าใช้ในถ้ำระหว่างรอเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือออกจากถ้ำนะครับ ซึ่งพัฒนามาจากฉนวนกันความร้อนจากดวงอาทิตย์ใช้กับดาวเทียมหรือยานอวกาศที่ปฎิบัติภาระกิจในอวกาศ ต่อมาได้กลายมาเป็นอุปกรณ์ช่วยชีวิตอย่างหนึ่งที่จะขาดเสียมิได้ในงานกู้ภัยและการให้ความช่วยเหลือ ประโยชน์ของฟอยล์ก็เพื่อกักเก็บความร้อนภายในร่างกายคนเราไม่ให้ออกสู่สิ่งแวดล้อมมากเกินไป จนทำให้เกิดภาวะตัวเย็นหรืออุณหภูมิกายต่ำผิดปกติ (Hypothermia) ที่อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้

๏ เครื่องดูดฝุ่น
ในช่วงยุคแห่งการสำรวจดวงจันทร์ นาซ่าร่วมกับบริษัท Black & Decker ได้ร่วมกันออกแบบและพัฒนาอุปกรณ์เก็บชิ้นส่วนตัวอย่างหินจากดวงจันทร์ ภายใต้โครงการ Apollo ต่อมาในปีพ.ศ. 2522 ไอเดียดังกล่าวได้ถูกพัฒนาต่อยอดจนกลายเป็นเครื่องดูดฝุ่นที่เราใช้อยู่ตามบ้านในปัจจุบัน

๏ เครื่องวัดอุณหภูมิอินฟราเรด
นาซ่าร่วมกับบริษัท Diatek พัฒนาเครื่องวัดอุณหภูมิร่างกายผ่านทางหู โดยอาศัยคลื่นอินฟาเรดเพื่อตรวจวัดค่าพลังงานที่ได้จากแก้วหูของนักบินอวกาศ ต่อมาเครื่องดังกล่าวกลายเป็นต้นแบบการพัฒนาเครื่องวัดอุณหภูมิอินฟราเรดในปัจจุบันและถูกนำไปใช้งานหลากหลายยิ่งขึ้น เช่น การตรวจสอบอุณหภูมิของอาหารจานร้อน อุณหภูมิของชิ้นส่วนต่างๆของร่างกาย อุณหภูมิน้ำหล่อเย็น รวมถึงทางการแพทย์ เป็นต้น และได้ถูกวางจำหน่ายในท้องตลาดเป็นครั้งแรกในปี พ.ศ. 2534

๏ หูฟังแบบไร้สาย
ไอเดียแรกเริ่มมาจากเพื่ออำนวยความสะดวกนักบินอวกาศในระหว่างปฎิบัติภารกิจ และเพิ่มความปลอดภัยในการปฎิบัติภารกิจจากสายต่างๆ ต่อมาเมื่อปี พ.ศ.2505 ก็ได้นำมาใช้กับนักบินสายการบิน United Airlines และพนักงานควบคุมการจราจรทางอากาศในเวลาต่อมา

๏ อาหารแช่แช็งแห้ง
หนึ่งในสิ่งที่นาซ่าได้ทุ่มทุนทำการวิจัยอย่างหนักหน่วง ก็คือเรื่องอาหารที่จะให้นักบินอวกาศใช้ทานในอวกาศ มีหลากหลายเทคโนโลยีที่ถูกนำมาใช้ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ การแช่แข็งแห้ง คือ การเอาความชื้นออกจากวัสดุที่แช่แข็งแล้ว ในขณะที่มันยังคงอยู่ในสภาพเดิม รักษารูปร่างและโครงสร้างไว้เหมือนเดิม รวมถึงรักษาคุณค่าทางอาหารให้คงเดิมได้ถึง 98% ในขณะที่น้ำหนักของอาหารลดเหลือเพียง 20% ปัจจุบันไอเดียดังกล่าวมีความสำคัญมากในธุรกิจส่งออกอาหาร

๏ เมาส์
ย้อนไปในช่วงยุคต้นคริสต์ทศวรรษ 1960 นักวิจัยนาซ่าได้พยายามคิดค้นวิธีที่จะทำให้คอมพิวเตอร์ตอบสนองได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับการคำนวณในภารกิจต่างๆของนาซ่าที่ต้องอาศัยการพิมพ์ป้อนคำสั่งอย่างเดียวในขณะนั้น ต่อมาได้มีการนำเสนอไอเดียการจัดการข้อมูลผ่านจอคอมพิวเตอร์ ซึ่งก็นำมาสู่การประดิษฐ์เมาส์ควบคุมการสั่งการผ่านหน้าจอ เป็นต้นแบบการพัฒนาจนเป็นเมาส์ไร้สาย แป้นควบคุม รวมถึงหน้าจอสัมผัสในปัจจุบัน แม้ว่าเมาส์จะไม่เป็นผลผลิตที่เกี่ยวข้องกับการสำรวจอวกาศโดยตรงแต่ก็นับว่าเป็นความก้าวหน้าที่สำคัญที่ทำให้ภารกิจของนาซ่าประสบความสำเร็จ สะท้อนให้เห็นถึงความพยายามในการแก้ปัญขาของมนุษย์เรา

ทั้งหมดนี้ บอกได้เลยว่ายังเป็นแค่ส่วนเล็กๆ ในอีกหลากหลายนวัตกรรมที่เป็นผลพลอยได้จากการพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศ จะได้เห็นว่าสิ่งประดิษฐ์บางชิ้นที่ได้คิดค้นขึ้นมาในอดีต เพื่อเพียงแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นซ้ำๆ เดิมๆ แต่มันได้เปลี่ยนชีวิตเราให้สะดวกขึ้นแล้วในปัจจุบัน

ที่มา GISTDA

► ขนาดของแว่นตาดูอย่างไร?

ปกติแล้วแว่นตาทุกอันจะมีการระบุรหัสและขนาดไว่ที่ขาแว่น โดยขนาดจะประกอบด้วยตัวเลข 3ชุด ดังนี้

xx – xx – xxx

ตัวเลขชุดแรกจะเป็นค่าความกว้างของเลนส์ข้างหนึ่ง

ตัวเลขชุดที่สองจะเป็นค่าความยางของสะพานจมูก

ตัวเลขชุดที่สามจะเป็นค่าความยาวขาแว่น

ซึ่งมีหน่วยเป็น มม. เท่านี้เวลาเลือกซื้อแว่นโดยที่ไม่มีโอกาสได้ลอง ก็จะได้ดูค่าที่ระบุไว้นี้ในการตัดสินใจได้แล้ว

► ฟ้าทะลายโจร

ฟ้าทะลายโจร Andrographis Paniculata (Burm.f.) Nees. เป็นพืชล้มลุกฤดูเดียว ที่อยู่ในวงศ์ Acanthaceae (วงศ์เหงือกปลาหมอ) มีถิ่นกำเนิดในอินเดียและศรีลังกา ลักษณะเป็นไม้พุ่มเตี้ย มีความสูงประมาณ 30 – 70 เซนติเมตร
สภาพแวดล้อมที่เหมาะสม

  • สภาพภูมิอากาศ
    อุณหภูมิ: ร้อนชื้น อุณหภูมิประมาณ 25-30 °C
    ความชื้นสัมพัทธ์: เฉลี่ย 60-80%
    แสง: ร่มไร ถ้าจำเป็นต้องปลูกกลางแจ้ง ต้องให้น้ำเพิ่มเป็นพิเศษ
    น้ำ: ต้องการน้ำเพียงพอตลอดฤดูปลูก ถ้าขาดน้ำ ผลผลิตและปริมาณสารสำคัญจะลดลง
    ลม: แหล่งปลูกต้องไม่มีลมพัดแรง มีการทำแนวบังลมเพื่อป้องกันต้นหักล้ม
  • สภาพพื้นที่
    ความสูง: จากระดับน้ำทะเลถึง 3,200 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล
  • สภาพดิน
    ประเภทดิน ดินร่วนซุย หลีกเลี่ยงดินเหนียว หรือดินทรายจัด
    อินทรียวัตถุ มีอินทรียวัตถุไม่น้อยกว่า 3.5%
    ความเป็นกรดด่างของดิน(pH) 5.5-8
    การระบายน้ำ ระบายน้ำดี ไม่ท่วมขัง
  • สายพันธุ์
    พันธุ์จาก อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม น้ำหนักสดต่อต้นสูง
    พันธุ์จากระยอง
    พันธุ์ศรีสะเกษ
  • ผลผลิตเฉลี่ย
    ผลผลิตสดเฉลี่ย 2,000-3,000 กิโลกรัมต่อไร่
    ผลผลิตสด : ผลผลิตแห้ง 4 : 1

การเตรียมดิน

  • ถ้ามีวัชพืชมาก ให้ไถพรวน 2 ครั้ง ตากดิน 2 สัปดาห์ แล้วจึงใส่ปุ๋ยอินทรีย์รองพื้น ก่อนทำแปลง
  • ในกรณีที่ดินดี มีวัชพืชน้อย อาจแค่ปรับดิน โดยไม่ต้องใส่ปุ๋ยอินทรีย์

การเตรียมพันธุ์

  • ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด
  • เลือกใช้เมล็ดจากฝักแก่จัด สีน้ำตาลแดง เมล็ดสมบูรณ์ ไม่มีโรค-แมลง
  • อาจนำเมล็ดมาแช่น้ำหรือไม่แช่น้ำก็ได้ ถ้าแช่น้ำ ให้แช่ 2 ชั่วโมง แล้วห่อกระดาษทิชชู ทิ้งไว้ 2 วัน

เตรียมแปลงปลูก

  • ยกแปลงสูง 15 – 20 ซม. กว้าง 1 เมตร แปลงยาว 3 – 5 เมตร ตามสภาพพื้นที่
  • ใส่ปุ๋ยอินทรีย์และถ่านไบโอชาร์ รดน้ำ ปล่อยทิ้งไว้อย่างน้อย 30 – 45 ก่อนปลูก

การปลูก
ทำได้ 4 วิธี
1) หว่านลงแปลงโดยตรง โดยอาจนำเมล็ดมาผสมทรายหยาบ อัตรา 1:1-2 เพื่อสะดวกในการหว่าน
2) โรยเมล็ดเป็นแถว ขวางแปลง ระยะแถวห่าง 50 ซม. กลบดินบางๆ
3) เพาะกล้าในถาดเพาะ แล้วจึงย้ายลงแปลงปลูก
4) เพาะในแปลง โดยเตรียมแปลงเพาะกว้าง 1 ม. สูง 15 – 20 ซม. ใส่ปุ๋ยอินทรีย์รองพื้น 0.5 – 1 กก.ต่อพื้นที่ 1 ตรม.

ในกรณีปลูกด้วยการย้ายกล้า

  • ใช้ต้นกล้าอายุ 30 วัน
  • ปลูกฤดูแล้ง ระยะ 30 x 40 ซม. จะปลูกได้ 8 ต้น/ตรม.
  • ปลูกฤดูฝน ระยะ 30 x 60 ซม. จะปลูกได้ 6 ต้น/ตรม.

การให้น้ำ
ให้น้ำอย่างพอเพียงและสม่ำเสมอ ตั้งแต่เริ่มปลูกถึงเก็บเกี่ยว
ถ้าแดดจัดให้น้ำวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น
ถ้าแดดไม่จัด ให้น้ำวันละครั้ง ช่วงเย็น
เมื่ออายุได้ 2 เดือนแล้ว สามารถลดการให้น้ำ โดยดูตามความเหมาะสม

การให้ปุ๋ย

  • ช่วงเตรียมดินย้ายกล้า ใส่ปุ๋ยอินทรีย์หว่านบางๆ
  • หลังจากนั้น 15 วัน ใส่ปุ๋ยอินทรีย์รอบสอง 125 กรัมต่อต้น หรือ 300 – 400 กรัมต่อ 1 ตรม. โดยหว่านกระจายให้ทั่วแปลง

การกำจัดวัชพืช
ช่วงแรก จะต้องกำจัดวัชพืชประมาณทุกครึ่งเดือน เมื่อต้นฟ้าทะลายโจรโต ทรงพุ่มกว้างคลุมแปลงแล้ว จะมีวัชพืชน้อย ไม่จำเป็นต้องกำจัดก็ได้

ศัตรูที่สำคัญและการป้องกันกำจัด
อาจพบหอยทากบ้างในช่วงระยะต้นกล้า ให้กำจัดด้วยมือ
หลังจากนั้น ไม่พบการระบาดของโรคระบาดที่ทำความเสียหายรุนแรง
บางครั้งพบโรคโคนเน่า-รากเน่าจากเชื้อรา ให้ถอนทำลายทันที

การเก็บเกี่ยว
เพื่อให้ได้สารสำคัญสูงสุด ให้เก็บเกี่ยว

  • เก็บเกี่ยวระยะเริ่มออกดอก-ดอกบาน 30% และไม่ควรเกินระยะดังกล่าว เพราะสารสำคัญจะลดลง
  • วิธีเก็บตัดเหนือดินห่างโคน 4 ข้อ (ประมาณ 5 – 10 ซม.)
  • ใบมีปริมาณสารสำคัญมากกว่ากิ่งก้าน

การปฏิบัติหลังการเก็บเกี่ยว

  • คัดแยกสิ่งปนปลอม เช่น วัชพืชที่ปะปนมา
  • ล้างน้ำสะอาด
  • ตัดเป็นท่อนยาว 2-3 ซม. ผึ่งให้แห้ง
  • ทำแห้งโดยตากแดดบนลานตากยกพื้นมีวัสดุรองรับที่สะอาด หรือใช้เครื่องอบแห้งแบบลมร้อน ที่อุณหภูมิ 50 °C ใน 8 ชั่วโมงแรก และลดอุณหภูมิเหลือ 40 – 45 °C อบต่อจนแห้งสนิท

เอกสารอ้างอิง
– https://th.wikipedia.org/wiki/ฟ้าทะลายโจร_(พืช)
– http://k-tank.doae.go.th/uploads/16ฟ้าทะลายโจร.pdf

► 9 ข้อดีของการดื่มไวน์

ไวน์ (Wine) เครื่องดื่มยอดนิยมทั่วโลก ที่มีรสชาติแตกต่างกันไปตามแหล่งผลิต ระยะเวลาการบ่ม รวมไปถึงชนิดของไวน์ ไม่ว่าจะเป็น ไวน์แดง (Red Wine) ไวน์ขาว (White Wine) ไวน์โรเซ่ (Rose Wine) เป็นต้น

หลายคนสงสัยว่า ไวน์ จะมีประโยชน์ได้อย่างไร ดื่มไวน์เพื่อสุขภาพได้อย่างไร ทั้งๆ ที่เป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ นั้นเพราะวัตถุดิบหลักอย่างองุ่น เป็นผลไม้ที่มีสรรพคุณมากมาย ที่ช่วยบำรุงร่างกายให้แข็งแรง และลดภาวะเสี่ยงจากโรคร้ายได้อีกด้วย เฮเฟเล่ขอนำเสนอ ข้อดีและประโยชน์เพื่อสุขภาพของการดื่มไวน์

1.ชะลอความแก่ Anti Aging
ในองุ่น ก็เนื่องด้วยสารต้านอนุมูลอิสระในไวน์แดงช่วยป้องกันร่างกายจากความเสียหายจากอนุมูลอิสระและจะชะลอกระบวนการชรา ไวน์แดงมีความเข้มข้นของสารต้านอนุมูลอิสระที่เรียกว่าโพลีมากกว่า เมื่อเทียบกับน้ำองุ่น

นักวิจัยสเปนแนะว่าการดื่มไวน์แดงอาจช่วยชะลอความแก่ หลังพบสารเมลาโทนินในผิวองุ่น รวมถึงอาหารอีกหลายชนิด เช่น หอมหัวใหญ่ ข้าว และเชอรี่ สามารถปกป้องเซลล์จากการถูกทำลายตามอายุขัยที่เพิ่มขึ้น ซึ่งควรจะเริ่มกินตั้งแต่อายุย่างเข้า 30 ปี เพราะไวน์แดง ชะลอความแก่ ได้จริง แล้วยังช่วยปรับปรุงสุขภาพหัวใจ แต่คุณก็ควรที่จะดื่มในปริมาณที่เหมาะสมเช่นกันค่ะ

2.ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ
สารเรสเวอราทรอล (Resveratrol) ในไวน์ช่วยให้หัวใจแข็งแรง สารดังกล่าวทำหน้าที่เปลี่ยนระดับไขมันคอเลสเตอรอลในเลือด เลือดไม่เกาะกันเป็นก้อน ลดปัญหาการอุดสันในเส้นเลือด ทำให้ลดความเสี่ยงที่เกิดโรคหัวใจได้ 30-40 %

การดื่มไวน์แดงในปริมาณที่พอเหมาะ อย่างสม่ำเสมอทุกวันเหมือนที่ชาวฝรั่งเศสปฏิบัติกันเป็นปกตินิสัย ทำให้ชาวฝรั่งเศสมีอัตราเสี่ยงต่อโรคหัวใจ และโรคหัวใจล้มเหลวลดลงถึง 50 %

ส่วนไวน์ขาวนอกจากจะเป็นเครื่องดื่มที่สร้างความสดชื่นให้กับร่างกายแล้ว ยังทำให้อาหารทะเลมีรสชาติถูกปากอร่อยลิ้น ที่สำคัญมีสรรพคุณช่วยย่อยอาหารและ สามารถกำจัดพิษจากอาหารทะเลที่เป็นอันตรายต่อระบบย่อยอาหารได้อย่างน่าอัศจรรย์ยิ่ง

3.ลดและป้องกันมะเร็ง
สารเรสเวอราทรอล (Resveratrol) เป็นสารต้านอนุมูลอิสระชนิดหนึ่งซึ่งพบได้ในองุ่น ราสเบอร์รี ถั่วลิสง และพืชอื่นๆ มีหลักฐานว่า เรสเวราทรอลนั้นลดอนุมูลอิสระและลดอัตราการเกิดมะเร็งในสัตว์ทดลอง รวมทั้งลดการเจริญเติบโตของมะเร็งในถาดเพาะเชื้อได้ นอกจากนั้นยังลดสารเอ็นเอฟ แคปปา บี (NF kappa B) ซึ่งเป็นโปรตีนที่สร้างโดยระบบภูมิคุ้มกันที่ถูกกระตุ้นอีกด้วย ดังนั้นจึงสรุปได้ว่า ดื่มไวน์ต้านมะเร็งได้

4.ลดปริมาณคอเลสเตอรอล
เป็นที่ทราบกันดีว่าในไวน์แดง มีแทนนินหรือความฝาด ซึ่งนอกจากจะป้องกันการเกิดโรคหัวใจแล้ว ยังช่วยลดปริมาณคอเลสเตอรอลในเส้นเลือด หากมีคอเลสเตอรอลในเส้นเลือดมากๆ อาจทำให้เกิดการไหลเวียนของเลือดผิดปกติได้

5.ช่วยในการย่อย
อาหารประเภททอด อาหารแปรรูป จะมีสาร Malonaldehydes ซึ่งสารเหล่านี้ส่งผลร้ายต่อระบบทางเดินอาหารให้แก่ร่างกาย มีการศึกษาพบว่าการดื่มไวน์แดงกับอาหารดังกล่าวช่วยลบล้างสารเหล่านี้ได้ถึงร้อยละ 60-70 ดังนั้นความสามารถในการช่วยการทำลายสารเหล่านี้ก็เป็นประโยชน์ในการย่อยอาหาร

6.ช่วยในลดและคลายความเครียด
ไวน์ช่วยเรื่องความเครียดได้ ไวน์เป็นยากล่อมประสาทชนิดหนึ่ง ช่วยให้ร่างกายรู้สึกผ่อนคลาย จึงช่วยลดความเครียดหรือคลายกังวล ทำให้นอนหลับพักผ่อนได้ยาวนานขึ้น

7.ป้องกันโรคความจำเสื่อม
นักวิจัยพบว่าไวน์แดงช่วยลดความจำเสื่อมได้ โดยสาร สารเรสเวอราทรอล (Resveratrol) ในไวน์แดง มีผลในการป้องกันการเสื่อมของสมอง

ทีมงานวิจัยได้ศึกษาคอไวน์ 7,983 คน ซึ่งดื่มไวน์เป็นประจำ วันละ 1 – 3 แก้ว ระหว่างปี1990 – 1999 พบว่าบุคคลดังกล่าวไม่เป็นโรคอัลไซเมอร์ และ โรคพาร์กินสันแต่อย่างใด

8.สุขภาพเหงือกและฟัน
ไวน์มีคุณสมบัติต่อต้านแบคทีเรียในช่องปาก และนอกจากนี้งานวิจัย แสดงให้เห็นว่า สารโพลีฟีน เป็นสารธรรมชาติที่พบในเมล็ดองุ่นและไวน์แดงจะมีคุณสมบัติช่วยในการต้านการอักเสบที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียของเหงือก หรือเหงือกอักเสบ

9.ไวน์ช่วยป้องกันโรคหวัด
รู้หรือไม่ส่วนประกอบที่มีอยู่ในไวน์ช่วยป้องกันหวัดได้ ศูนย์โรคหวัดแห่งมหาวิทยาลัย คาร์ดีฟ เคยมีรายงานว่า คุณสมบัติของสารต้านอนุมูลอิสระ หรือสารแอนตี้ออกซิแดนท์อาจทำให้ไวน์แดง สามารถป้องกันหวัดได้ และยังมีผลการวิจัยอาสาสมัคร 4,000 คน เป็นเวลา 1 ปีพบว่า ผู้ที่ดื่มไวน์แดงมากกว่าวันละ 2 แก้ว เป็นหวัดน้อยกว่าคนที่ไม่ได้ดื่มไวน์เลยถึงร้อยละ 44

ดื่มไวน์อย่างไรให้ดีต่อสุขภาพ ?
การดื่มไวน์เพื่อสุขภาพ หากดื่มในปริมาณที่เหมาะสมก็จะได้รับประโยชน์ แต่การดื่มในปริมาณที่มากเกินไปก็อาจส่งผลกระทบในทางลบได้ โดยปริมาณการดื่มไวน์อย่างเหมาะสมที่แนะนำ คือ ผู้ชายควรดื่มไม่เกิน 2 แก้ว /วัน หรือประมาณ 250 – 300 มิลลิลิตร และผู้หญิงควรดื่มไม่เกิน 1 แก้ว /วัน หรือประมาณ 125 – 150 มิลลิลิตร

ที่มา https://www.hafelethailand.com

► การเลือกซื้อกุ้งสด

การเลือกซื้ออาหารทะเล แน่นอนว่าสิ่งแรกคือต้งไม่มีกลิ่นเหม็น และสภาพโดยรวมสมบูรณ์ แต่จะเลือกอย่างไร เรามาดูกัน

  • เลือกกุ้งลำตัวใส ติดเปลือกแน่น เปลือกเงางาม
  • เลือกกุ้งที่หัวติดกับลำตัว ไม่หลุดออกจากกัน
  • เลือกกุ้งที่ครีบและหางเป็นมัน ไม่หลุดออกจากกัน

เพื่อรักษาความสดของกุ้งไว้ ควรใส่น้ำแข็งให้ก่อนกลับบ้านด้วย และเมื่อถึงบ้านแล้ว ให้รีบนำกุ้งเข้าช่อง Freeze ทันที เพื่อคงความสดให้คงนานกว่าเดิม

ที่มา https://www.tescolotus.com

► อาชีพวัยเกษียณ มีรายได้ช่วงบั้นปลายและมีกิจกรรมทำ

แม้จะเข้าสู่วัยเกษียณแล้ว แต่หลายคนก็ยังรู้สึกว่าไม่อยากที่จะอยู่เฉยๆ ยังมีไฟมีแรงที่อยากทำนู่นทำนี่ที่ตัวเองอยากทำ แก้เหงาและยังมีรายได้ด้วย

ปลูกต้นไม้ ทำเกษตร อาจจะปลูกต้นไม้เล็กๆ เช่น แคคตัส หว่าน ไม้ประดับ หรืออาจจะเป็นผักสลัดก็ได้ เพราะต้นไม้ขนาดเล็กดูแลง่ายไม่้ต้องออกแรงมาก

นักเขียน หลายคนที่หยุดงานแล้วแต่สมองยังคงโลดแล่น จินตนาการไม่หยุด สามาราถถ่ายทอดความคิดออกมาเป็นตัวหนังสือ ทั้งถ่ายทอดจินตนาการ หรือบางคนก็ถ่ายทอดประสบการณ์การทำงาน เดี๋ยวนี้การเขียนและการเผยแพร่ผลงานสามารถทำได้ง่ายในโลกออนไลน์ เช่น blog เขียนรีวิวเรื่องต่างๆ ที่ตนเองถนัด ไม่ต้องลงทุนตีพิมพ์เป็นเล่ม

โฮมสเตย์ บางท่านที่บ้านมีพื้นที่มาก มีห้องพักเหลือไม่ได้ใช้ประโยชน์อะไรก็ลองเอามาปล่อยเช่า นอกจากจะมีรายได้แล้วยังมีเพื่อนไว้พูดคุยแก้เหงาด้วย

เป็นที่ปรึกษา ให้กับหน่วยงาน องค์กร บริษัท โดยใช้ความรู้ความสามารถและประสบการณ์ที่มีตลอดการทำงานที่ผ่านมา พบว่าหลายๆ หน่วยงานมักจะเชิญคนวัยเกษียณมาเป็นที่ปรึกษา วิทยากร เพื่อช่วยแนะนำและตัดสินใจในเรื่องต่างๆ

เป็นตัวแทนประกัน เป็นงานหลังเกษียณที่เหมาะเพราะท่านจะมีเวลาใส่ใจดูแล และมีประสบการณ์ที่จะแนะนำได้

ช่างซ่อม หลายๆ ท่านที่มีความสามารถในงานช่าง งานซ่อม ได้ยกของได้ออกแรงบ้างก็จะช่วยให้ร่างการสดชื่น กระปรี้กระเปร่า

ขายภาพถ่ายออนไลน์ เป็นอาชีพที่อยู่ในกระแส เป็นที่นิยมสำหรับคนที่ชอบถ่ายรูป ปัจจุบันมีหลายเว็บไซต์

ขายของออนไลน์ ในยุคที่อินเตอร์เนทเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันไปแล้ว การซื้อขายของออนไลน์เป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นทุกวัน ท่าก็ลองมองหาสินค้าที่ท่านสนใจและคิดว่ามีคนสนใจ และลองเริ่มต้นด้วยเงินลงทุนไม่มาก

ทำอาหารหรือขนมขาย ท่านที่ชอบการเข้าครัว ทำอาหาร ทำขนมอยู่แล้ว ชอบทำให้ลูกๆ หลานๆ หรือคนข้างบ้านอยู่แล้ว ก็ลองทำเป็นอาชีพเลยก็น่าจะดีไม่น้อย

ทำงานฝีมือ งานศิลปะ หลายๆ ท่านที่ชอบทำงานฝีมือแต่ช่วงที่ทำงานอาจจะไม่ึค่อยมีเวลาทำ ก็ลองทำในช่วงนี้ที่มีเวลาเต็มที่แล้ว ได้ทำในสิ่งที่ตัวเองชอบและขายได้อีกด้วย

รับจ้างเลี้ยงเด็ก ผู้สูงอายุหลายคนมีประสบการณ์เลี้ยงลูกเลี้นงหลานมาก่อน จึงเข้าใจเด็กๆ เป็นอย่างดี การได้อยู่กับเด็กทำให้เราอายุเยาว์ตามเด็กไปด้วย

ลงทุน สำหรับคนที่มีเงินเก็บอยู่และอยากให้เงินงอกเงย แต่ก็ไม่สะดวกที่จะทำอะไรเอง ก็อาจจะเลือกการลงทุนผ่านตัวแทน กองทุน หรือลงทุนในทรัพย์สินที่มีความเสี่ยงต่ำ เช่น พันธบัตรรัฐบาล สลากออมทรัพย์ เงินฝากประจำหรือตราสารหนี้ ก็ได้